“เอกนิติ” โชว์ Digital Tranformation หนุนรายได้ทะลุเป้ากว่า 7 หมื่นล้าน

“เอกนิติ” เผย กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้ 4 เดือนปีงบฯ 65 ทะลุเป้ากว่า 7.8 หมื่นล้าน หลังปรับองค์กรเข้าสู่ Digital Tranformation พร้อมเปิด 6 ข้อแนะ CEO ทำ Digital Tranformation ให้สำเร็จ

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส อธิบดีกรมสรรพากร บรรยายพิเศษในหลักสูตร Digital Tranformation For CEO#3 ที่จัดโดย หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจและกรุงเทพธุรกิจ โดยกล่าวว่าในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 65 กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บรายได้สูงกว่าช่วงเดียวกันปีงบประมาณก่อนถึง 16% หรือกว่า 7.8 หมื่นล้านบาท และสูงกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณที่ 14.3% ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการที่กรมสรรพากรได้ทำ Digital Transformation ทั้งนี้กรมสรรพากรถือเป็นหน่วยงานที่นำส่งรายได้ให้รัฐสูงในสัดส่วน 80% หรือกว่าปีละ 2 ล้านล้านบาท

“จากการที่กรมสรรพากร ได้ทำ Digital Transformation ตั้งแต่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงปีแรก จึงสามารถทำ Tax From Home ทั้งการจดทะเบียน การยื่นแบบภาษี และชำระภาษี จากที่บ้านได้โดยไม่ต้องเดินทางมาที่สรรพากร ซึ่งล่าสุดพบว่ากว่า 85% มีการยื่นแบบภาษีบุคคลธรรมดาผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ยื่น VAT ผ่านระบบฯ เพิ่มขึ้นถึง 74% และมีการขอคืนเงินภาษีผ่านระบบพร้อมเพล์เพิ่มขึ้นถึง 90%” นายเอกนิติ กล่าว

นอกจากนี้กรมสรรพากร ยังได้ทำ My Tax Account / E-Donation โดยการเชื่อมโยงระบบกับหน่วยงาน เช่น กบข. ประกันสุขภาพ สถาบันการเงิน เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องเอกสารสำหรับใช้หักลดหย่อน และไม่ต้องมีปัญหาเรื่องเอกสารหายหรือหาไม่เจอ ซึ่งถือเป็นความง่ายที่เกิดขึ้นจากการ ทำ Digital Transformation

นายเอกนิติ ยังกล่าวถึงการเปลี่ยนไปสู่ Digital Transformation ของกรมสรรพากร โดยได้กำหนด 3 เป้าหมาย คือ เก็บภาษีตรงเป้า นโยบายตรงกลุ่ม และ บริการตรงใจ โดยยึดหลักให้ผู้เสียภาษีเป็นศูนย์กลาง และใช้การขับเคลื่อนผ่านคำว่า “Drive” ที่มี D 2ตัว ได้แก่

 

1.Digital Transformation การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับปรุง/ปรับใช้กับกระบวนการทำงาน

2.Data Analytics การจัดการและนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้กรมฯสามารถจัดเก็บภาษีได้ตรงเป้า เนื่องจากใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูล กลุ่มธุรกิจที่ไม่ได้รับผลกระทบหรือยังได้รับประโยชน์จากการระบาดของไวรัสโควิด ซึ่งพบว่าบางธุรกิจมีอัตราการเติบโตสูงกว่า 20% ซึ่งตรงกับรูปแบบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่หลายฝ่ายประเมินว่าจะฟื้นตัวในรูปแบบตัว K

3.Revenue Collection กลยุทธ์ในการจัดเก็บ/ส่งเสริมการจัดเก็บให้เป็นไปตามเป้าหมาย

4.Innovation การสร้างและส่งเสริมนวัตกรรมองค์กรในการสร้างนวัตกรรม โดยการทำโรงเรียนสรรพากร เปิดโอกาสให้พนักงานกว่า 20,000 ชีวิตได้คิดและนำเสนอโครงการ และการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นสตาร์ทอัพ หรือการ ทำ Tax Hackathon

5.Values การขับเคลื่อนองค์กรคุณธรรม

6.Efficiency การเพิ่มประสิทธิภาพคน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

 

นายเอกนิติยังกล่าวถึงความสำเร็จของผู้บริหารในการทำ Digital Transformation จะต้องประกอบด้วย 6 ข้อ คือ 1.Leadership ที่ต้องพร้อมในการผลักดันทุกระดับ 2.มีความพร้อมสู่การเปลี่ยนแปลง การเปิดหาพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ 3. กลยุทธ์ต้องชัด แผนธุรกิจและเทคโนโลยีต้องไปพร้อมกัน 4.ฐานข้อมูลพร้อมใช้งานเสมอ 5. ความพร้อมของกำลังแรงงาน และ 6. การสร้างสภาพแวดล้อมให้พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลง พร้อมกล่าวย้ำว่า การ Transformation จะไม่ยั่งยืนหากไม่ได้มีการทำจากภายในองค์กร

อ้างอิง
https://www.thansettakij.com/money_market

admin

Related Posts